2553/01/29

กระบวนการเรียนรู้ที่สร้างความรู้สึกทางบวกแก่เด็กปฐมวัย

     การสร้างความรู้สึกทางบวกให้กับเด็กเล็กเป็นสิ่งสำคัญ   ผู้ใหญ่ส่วนมากจะเห็นว่าไม่เห็นต้องสนใจ โตขึ้นก่อนแล้วค่อยคำนึงก็ได้  เด็กไม่รู้เรื่องทำอะไรก็ได้  ความคิดดังกล่าว จำเป็นต้องปรับและเปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าวตั้งแต่ตอนนี้ถ้าเราต้องการจะได้เด็กที่โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ  และเป็นคนที่ดีในอนาคต  สิ่งที่ต้องทำเพื่อสร้างให้เด็กมีความรู้สึกทางบวกมีดังนี้
      1.  ชื่นชมเด็กเมื่อเด็กทำดี
      2.  ระมัดระวังในการใช้คำพูดกับเด็ก
                -งดใช้คำว่า  อย่า
                -ไม่ประนาม  เยาะเย้ย  ค่อนแคะ  หัวเราะเยาะ
                -ไม่ออกคำสั่ง
                -ไม่บังคับข่มขู่
                -ไม่ครอบงำทางความคิด
                -ไม่ทำตลกล้อเลียนจุดบกพร่องของเด็ก
      3.  ท้าทายให้เด็กได้แสดงความสามารถ 
      4.  ให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจที่ได้ทำสิ่งต่างๆ  ด้วยตนเอง
      5.  กระตุ้นความคิดของเด็ก
      6.  เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก
      7.  แสดงออกถึงความรัก  และความเข้าใจเด็ก
      8. ปลูกฝังนิสัยและค่านิยมที่ดีให้เด็ก
                -ความอดทนอดกลั้น
                -รักษากฏ  กติกา
                -มีเหตุผล
                -ซื่อสัตย์
                -ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน
        สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่ไม่ยากสำหรับผู้ใหญ่ที่จะทำให้กับเด็กของเรา  แต่พวกเรามักจะละเลย
และมองข้ามเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ  แต่เด็กไม่คิดเช่นนั้น  เราจึงต้องคิดและทำใหม่ให้ได้ต่อไป

2553/01/28

การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม


           การจัดประสบการณ์เพื่อให้เด็กปฐมวัยเป็นคนดีที่สังคมไทยต้องการในขณะนี้  จำเป็นที่จะต้องมีกรอบความคิดหรือมีเป้าหมายที่ชัดเจน   เช่น ต้องการให้เด็กมีความเมตตา  ซื่อสัตย์  การรู้จักการให้  มีการแบ่งปัน  ช่วยเหลือเกื้อกูล   นั้น  จะต้องจัดประสบการณ์ด้วยความรัก  ความผูกพัน  จากการสัมผัส  และคำพูดชื่นชม  เมื่อเด็กทำดี  ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สมองของเด็กสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองมาเชื่อมโยงเซลล์สมองทำให้สมองของเด็กได้รับการพัฒนาในเชิงบวก  ทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์  เมื่อเด็กทำดี  จะทำให้เด็กเติบโตในภาวะอารมณ์ที่มั่นคง  และอบอุ่น  ทำให้เด็กมีทัศนคติเชิงบวกในการดำเนินชีวิต  และมีแนวโน้มจะพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความไว้วางใจและความรู้สึกห่วงใยผู้อื่น  มีความละเอียดอ่อนต่อการใช้ชีวิต          ดังนั้น  การจะทำให้เด็กเป็นคนดีสิ่งสำคัญคือ  การให้ความรัก  ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการจัดประสบการณ์      ถ้าเด็กขาดความรักตั้งแต่แรกแล้ว  ต่อไปจะให้เด็กของเราเป็นคนดีย่อมจะหวังได้อย่างยากยิ่ง

2553/01/20

ความแตกต่างของสมอง : ระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย

    มีข้อมูลกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างสมองผู้หญิงและผู้ชาย ที่เป็นการค้นพบโดยเฉลี่ยแล้ว  สมองเพศหญิงจะมีพัฒนาการทางภาษาดีกว่าชาย  เฉพาะอย่างยิ่งด้านการอ่านและการฟัง   ซึงอธิบายว่า ความแตกต่างระหว่างชายหญิงเป็นผลมาจากการปรับตัวขอบงสมอง  ระหว่างการวิวัฒนาการของมนุษย์   ในอดีตผู้ชายเป็นนักล่าสัตว์มาก่อน  ทำให้ทักษะในการมองเห็นได้รับการพัฒนาอย่างมาก  รวมทั้งทักษะเกี่ยวกับการเข้าใจข้อมุลที่เป็นระยะ  มิติ  รูปร่าง  ขนาด  จำนวน  ซึ่งเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์  ส่วนผู้หญิงเลี้ยงดูบุตร  ทำให้มีการพัฒนาทักษะภาษานอกจ  รวมทั้งความรู้สึกอ่อนไหวต่อเหตุการณ์รอบๆตัว   และความสามารถในการสื่อสาร  ดังนั้นเวลาจะเรียนรู้  ต้องมีความเข้าใจลักษณะความแตกต่างดังกล่าว  การจัดการเรียนสำหรับผู้ชายต้องใช้รูปภาพ  ของจริง สิ่งของที่มีระยะ  มิติ  เข้าช่วยในการเรียนรู้   ส่วนผู้หญิงจะเรียนรู้ได้ดีขึ้นถ้าได้ยินเสียง  ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษา ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น    นอกจากนั้นยังเก่งในการรับรู้รายละเอียด มีความสนใจในเรื่องความรู้สึกต่างๆ     ความรู้เช่นนี้  ครูหรือผู้จัดการเรียนรู้จะต้องนำไปเป็นใช้ประกอบในการพัฒนาเด็ก

2553/01/19

ข้อคิดในการจัดกิจกรรมให้กับเด็กปฐมวัย

          การจัดกิจกรรมให้กับเด็กปฐมวัย  หรือการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมให้กับเด็กปฐมวัยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ผู้ใหญ่ต้องมีความเข้าใจธรรมชาติของเด็ก   พัฒนาการของเด็กในวัย
ต่างๆ   ต้องรู้จักการจัดกิจกรรมในแบบต่างๆ  สำหรับข้อคิดและวิธีปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวพอจะกล่าวได้ดังนี้
          1.  อ่านหนังสือให้เด็กฟังเป็นประจำ  การอ่านเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเด็กเล็ก   ถ้าหนังสือน่าสนใจ  เด็กจะอยากฟัง  ถึงแม้จะมีคำศัพย์ยาก เด็กก็จะเข้าใจเนื่องจากเด็กสนใจทำให้อยากรู้    ดังนั้นเด็กก็จะมีคลังคำสะสมอยู่ในสมอง
         2.   การเรียนรู้ต้องมีบรรยากาศที่ช่วยกระตุ้น ส่งเสริมและสนับสนุน     ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ    การ
สร้างบรรยากาศที่กดดันเด็กไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เลย  เช่น  การขู่เข็ญ  การบังคับ   การลงโทษ
        3.   สมองจะเกิดการเรียนรู้ถ้ามีความสนใจ  สมองจะสนใจ ตัองมีการกระตุ้นด้วยวิธีต่างๆ  เช่น  สื่ออุปกรณ์  วิธีการสอนที่น่าสนใจ  เนื้อหาการสอน   การยัดเยียดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่ความหมายสำหรับการเรียนรู้ของเด็กเล็ก
        4.   กิจกรรมการเรียนรู้ต้องออกแบบให้มีการใช้สมองหลายส่วน    การสอนเด็กมีหลักสำคัญ  คือ  ให้สมองของเด็กได้เข้าร่วมในการเรียนรู้หลายส่วน  ได้แก่  ส่วนรับภาพ  ส่วนรับเสียง  ส่วนรับสัมผัส   ส่วนรับกลิ่น   ส่วนรับรส  เป็นต้น    ยิ่งสมองหลายส่วนเข้าร่วมในการเรียนรู้  การเรียนรู้ก็ยิ่งเกิดเร็วขึ้น
        5.   กระตุ้นสมองส่วนรับภาพ   ครูจำเป็นจะต้องใช้วิธีการหรือสื่ออุปกรณ์ต่างๆ  ที่กระตุ้นสมองในส่วนของการรับภาพ  ไม่ใช่ใช้วิธีการพูดหรือการบรรยายอย่างเดียวแล้วคิดว่าเด็กเข้าใจ ยิ่งเด็กเล็กจะต้องหาทางให้เด็กได้เห็นขณะที่เด็กเรียนรู้

        จึงเป็นข้อเสนอแนะบางประการเท่านั้น  ยังมีอีกหลายอย่างซึ่งจำเป็นต้องศึกษาและนำไปปฏิบัติต่อไป

2553/01/07

กิจกรรมพัฒนาระบบสร้างสมดุลร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัย


            การพัฒนาร่างกายสำหรับเด็กเล็กมีความสำคัญเพราะร่างกายนั้นเกี่ยวข้องกับความพร้อมด้านต่างๆด้วย   การที่เด็กมีความพร้อมด้านร่างกายจะส่งผลต่อการพัฒนาสมอง     การพัฒนาด้านอารมณ์ และจิตใจ   ฯลฯ   การสร้างสมดุลของร่างกายเป็นกิจกรรมที่ฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกาย   เช่น  การหมุนรอบตัวเอง  การเคลื่อนไหวในแนวราบ  การเคลื่อนไหวในแนวดิ่ง ซึ่งทำได้หลายลักษณะ   เช่น
            1. การกระโดดยาง  กระโดดเท้าคู่
            2. การกลิ้งตัวในกล่องแข็ง  การกลิ้งไปบนพื้นราบ  หรือการกลิ้งลงทางลาด
            3. กิจกรรมการแกว่งทั้งในแนวเหนือ ใต้  ตะวันออก  ตะวันตก
            4. การหมุนทั้งทวนและตามเข็มนาฬิกา
            5  การเล่นกระดานลื่น  การปีนเครื่องเล่นสนาม
            6. การเดินบนพื้นผิวที่ขรุขระ  ไม่ราบเรียบ
            7. กิจกรรมการโยก
            8. การทรงตัว
            9. การวิ่งจ๊อกกิ๊ง
            10 การตีลังกา

2553/01/06

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ของนักเขียน

      คุณพรอนงค์  นิยมค้า นักเขียนและนักแปลที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเด็ก  ได้เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องหนังสือภาพ  เมื่อตอนที่ลูกยังเล็ก  ได้เล่าว่าลูกสาวเป็นลูกครึ่งไทย- ญี่ปุ่น  เธอจึงอ่านหนังสือภาพภาษาญี่ปุ่นให้ลูกฟังเป็นประจำ ขณะที่ลูกอยู่เมืองไทย  แล้วคุณพรอนงค์ก็ได้เล่าต่อไปว่า  วันหนึ่งพี่เห็นลูกเขียนตัวหนังสือญี่ปุ่น  ตอนนั้นเขาอายุประมาณ   3 ขวบกว่า  ยังไม่เข้าโรงเรียนเลย  ลูกเขียนถูกด้วย  ทั้งๆ  ที่ไม่เคยสอนลูกเขียนตัวหนังสือญี่ปุ่นมาก่อนเลย  ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งในการสอนภาษาสำหรับเด็กเล็กๆ   ควรจะได้รู้จักภาษาและตัวอักษรด้วยความรู้สึกที่ดี  ก่อนที่จะต้องเริ่มต้นเรียนหนังสือ ฉะนั้นหนังสือเล่มแรกๆ  ของเด็กเล็กจึงควรเป็นหนังสือภาพ  ที่ประกอบด้วยภาพประเภทต่างๆ  ทั้งภาพสัตว์  เทวดา นางฟ้า  ดอกไม้ ต้นไม้  ฯลฯ  ไม่ใช่เป็นหนังสือที่ฝึกการอ่าน  มีแต่ตัว
พยัญชนะ  ตัวสระ ที่สอนการอ่านอย่างเป็นทางการ  และน่าเบื่อมากสำหรับเด็กเล็ก   เพราะเป็นสิ่งที่เด็กไม่เข้าใจ  ตลอดจนไม่มีความหมายสำหรับเด็กเลย  หากสภาพการเรียนรู้ภาษาของเด็กต้องทนทุกข์ทรมานแล้วก็จะทำให้เด็กเบื่อ จึงไม่เป็นผลดีต่อการเรียนภาษาของเด็ก

2553/01/05

กิจกรรมอาสาสมัคร : การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อการจัดการศึกษาปฐมวัย



              การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาปฐมวัยนั้น  ต้องมีความร่วมมือกันระหว่างผู้บริหารโรงเรียน  ครูผู้สอน  และที่สำคัญคือผู้ปกครอง   ปัจจุบันนี้โรงเรียนจะจัดการหรือพัฒนาการศึกษาโดยลำพังไม่ได้แล้ว  ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ปกครองเป็นกำลังสำคัญ  อย่างเช่น  กิจกรรมอาสาสมัคร  น่าจะเป็นไปได้สำหรับสังคมไทยเราขณะนี้  อย่างแรกที่จะต้องทำคือ การสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญ และความจำเป็นในการร่วมมือกันพัฒนาการศึกษาปฐมวัยนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป    สำหรับกิจกรรมอาสาสมัคร    หมายถึง การที่ผู้ปกครองเข้ามาร่วมกับทางโรงเรียนโดยเป็นอาสาสมัครในการทำกิจกรรมของโรงเรียนทั้งในส่วนของภาพรวมทั้งโรงเรียน  และในส่วนของห้องเรียน    ลักษณะของกิจกรรมอย่างเช่น  การเป็นครูช่วยสอน การเล่านิทาน   การพานักเรียนปฐมวัยไปทัศนศึกษา   การทำงานธุรการในโรงเรียน    การทำอาหารกลางวัน  การหาทุนให้กับโรงเรียน    การทำงานเป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุด
การเป็นพยาบาลในห้องพยาบาล   เป็นต้น     สำหรับโรงเรียนนั้นจะต้องดำเนินการโดยกำหนดเป็นนโยบาย  และจัดระบบอาสาสมัครที่ชัดเจน  มีการมอบงานที่เหมาะสมกับความสามารถ    การปฏิบัติงานมีการปฐมนิเทศ   แนะนำ   ฝึกอบรมผู้ปกครองก่อนปฏิบัติงาน  มีการให้เกียรติและยอมรับความสามารถ  และที่สำคัญมีการยกย่องสำหรับผู้ปกครองที่ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนในการเป็นอาสาสมัคร  ถึงแม้จะไม่ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน

2553/01/03

หนังสือภาพ

         หนังสือภาพ  เป็นหนังสือสำหรับเด็ก ที่มีไว้ให้ผู้ใหญ่อ่านให้เด็กฟัง  ไม่ใช่เป็นหนังสือที่เด็กอ่านเอง
เด็กเล็กๆยังอ่านหนังสือไม่ออก แต่เด็กรู้ว่าหนังสือนั้นมีไว้เพื่ออ่าน และเป็นการสร้างความประทับใจที่มีต่อหนังสือ  มีเจตคติที่ดีต่อหนังสือ  หนังสือภาพมีทั้งภาพและตัวหนังสือปรากฎให้เด็กได้เรียนรู้  เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องอ่านให้เด็กฟัง  การอ่านหนังสือภาพให้เด็กฟังมีคุณค่ามหาศาล ทำให้เด็กได้เรียนรู้จากภาพและเนื้อเรื่องที่ผู้ใหญ่อ่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ภาษา การใช้คำต่างๆ การใช้ประโยค  ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  และจินตนาการ   คุณธรรมในด้านต่างๆ   ความสนุกสนานเพลิดเพลิน
มีผู้ใหญ่หลายคนเข้าใจผิดว่า  รอให้เด็กอ่านหนังสือออกก่อนแล้วค่อยซื้อหนังสือให้   เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก  ต้องรีบแก้ไขและทำความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้ใหญ่บ้านเรา  มีผู้กล่าวว่า  สิ่งที่ดีที่สุดคือ ควรให้เด็กรู้จักหนังสือตั้งแต่เด็กยังไมรู้ว่าหนังสือคืออะไร  เมื่อมีคนอ่านให้ฟัง  ถ้าอ่านอย่างสนุกสนาน   เด็กจะมีความสุขอันเกิดจากการฟัง  และเริ่มเรียนรู้ว่าหนังสือ   มีไว้เพื่อการอ่าน  และเมื่อเด็กอ่านหนังสือได้แล้วเขาจะอ่านหนังสือได้ทันที   โดยไม่มีใครต้องคอยบอก   และจะมีพฤติกรรมรักการอ่านหนังสือ
ในที่สุด

2553/01/01

ลักษณะครูที่ส่งเสริมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

                การส่งเสริมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก   ครูเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ  จึงจำเป็นต้อง
เข้าใจถึงลักษณะและจะต้องพยายามปฏิบัติให้ได้  ลักษณะของครูที่จะทำให้เด็กมีพัฒนาความคิดสร้างสรรค์มีดังนี้
                ๐ มีความรักและเมตตาต่อเด็กเป็นประการสำคัญ
                ๐ มีอารมณ์ขัน  มองโลกในแง่ดี
                ๐ ให้ความสนใจในกระบวนการสร้างงานมากกว่าผลงานที่ออกมา
                ๐ ให้แรงเสริมในทางบวกแก่เด็ก
                ๐ ไม่เปรียบเทียบเด็ก และผลงานของเด็กกับเด็กคนอื่นๆ
                ๐ เน้นความคิดให้เด็กได้คิดอย่างเป็นอิสระ และส่งเสริมให้เด็กได้ตัดสินใจด้วยตนเอง
                ๐ ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง  ในการจัดประสบการณ์ต่างๆ
                ๐ เน้นพัฒนาการของเด็กมากกว่าเนื้อหา และเรื่องราวที่เรียน
                  หากครูมีลักษณะดังกล่าวข้างต้น เด็กของเราคงจะได้มีพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ตามที่คาดหวังไว้